Dusit Central Park ไม่ใช่แค่โครงการมิกซ์ยูสใจกลางเมือง แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ใหม่ของ “The New Luxury” ที่ผสมผสานรากฐานมรดกทางวัฒนธรรมไทยเข้ากับงานออกแบบสมัยใหม่ได้อย่างงดงาม ทั้งอาคารสำนักงาน โรงแรม ห้างสรรพสินค้า และที่พักอาศัย รวมไปถึง Roof Park ขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงธรรมชาติเข้าสู่ใจกลางกรุงเทพฯ
งานสถาปัตยกรรมของ Dusit Central Park มีความโดดเด่นด้วยการเลือกใช้โทนสี “Three Kings” ได้แก่ เงิน ทอง และแดงทอง ที่สื่อถึงเอกลักษณ์ของแต่ละอาคารในโครงการ ทำให้เกิดความโดดเด่นในทุกมุมมอง
เมื่อก้าวเข้าสู่ภายในศูนย์การค้า หนึ่งในภาพที่ดึงดูดสายตาที่สุดคือโถงกลางที่จัดวางบันไดเลื่อนในรูปแบบ ไขว้สลับชั้น (Crisscross Design) ดีไซน์นี้ไม่เพียงทำหน้าที่ในการสัญจร แต่ยังกลายเป็น “ประติมากรรมเชิงสถาปัตยกรรม” ที่สร้างเอกลักษณ์ให้กับ Dusit Central Park อย่างชัดเจน
บันไดเลื่อนถูกดีไซน์ให้โอบล้อมโถง Atrium ขนาดใหญ่ ทำให้เกิดความโล่งโปร่ง ผู้มาเยือนสามารถมองเห็นทุกระดับชั้นได้อย่างต่อเนื่อง เสริมด้วยวัสดุผิวมันเงาโทน โรสโกลด์ ที่สะท้อนแสงไฟและบรรยากาศโดยรอบ สร้างมิติหรูหราและอบอุ่นในเวลาเดียวกัน อีกทั้งการฝังเส้นไฟ LED ลงในแนวบันไดเลื่อนยังช่วยเน้นเส้นสายของดีไซน์ให้โดดเด่น โดยเฉพาะในพื้นที่ indoor ที่ต้องการความรู้สึก high-end
โถงบันไดเลื่อนที่ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงพาผู้คนขึ้นลง แต่ยังกลายเป็น แลนด์มาร์กภายในห้าง ที่ดึงดูดให้ผู้คนอยากบันทึกภาพและแชร์ลงโซเชียล สร้างการรับรู้และความจดจำแบรนด์ Dusit Central Park ให้แพร่หลายมากยิ่งขึ้น
ด้านหน้าของอาคารติดตั้ง LED Facade แบบโค้ง ซึ่งมีข้อดีมากกว่า LED แบบแผ่นเรียบทั่วไป เช่น
นี่คือการผสมผสานเทคโนโลยีเข้ากับงานดีไซน์ที่ทำให้ Dusit Central Park กลายเป็นแลนด์มาร์กที่มีชีวิต
หนึ่งในเสน่ห์ของโครงการนี้คือการออกแบบภายในที่สะท้อน มรดกของโรงแรมดุสิตธานี ควบคู่ไปกับความหรูหราทันสมัย
ดีไซน์แต่ละพื้นที่จึงไม่เพียงสวยงาม แต่ยังสร้างความรู้สึก “อยู่บ้านอย่างมีคุณภาพ” และ “พักผ่อนท่ามกลางความหรูหรา”
ตัวอย่างการใช้วัสดุจริงที่สะท้อนแนวคิด Heritage x Contemporary
โทนสีทองแดงเงา (Copper Finish + Glossy Surface) บริเวณบันไดเลื่อนและผนัง ทำให้พื้นที่ดูหรูหรา สื่อถึงความสง่างามดั้งเดิม ขณะเดียวกันก็มีความโมเดิร์นจากผิวเงาสะท้อนและเส้นไฟ LED ที่ฝังในโครงสร้าง
Roof Park ของ Dusit Central Park ไม่ได้เป็นเพียงสวนลอยฟ้าขนาดใหญ่กว่า 7 ไร่ แต่ยังเป็นการออกแบบเชิงสัญลักษณ์ที่เชื่อมโยงความเป็นธรรมชาติกลับคืนสู่ใจกลางกรุงเทพฯ ท่ามกลางตึกสูงและความคึกคักของเมือง
จุดที่น่าสนใจอย่างมากคือการเลือกใช้ วัสดุจริง ในงานตกแต่ง เช่น ไม้จริง (Hardwood Decking) ที่ใช้ปูพื้นและสะพานเดินในสวน ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าเป็น ไม้สัก (Teak Decking) เนื่องจากเป็นวัสดุที่ทนต่อแดดและฝน มีอายุการใช้งานยาวนาน และให้สัมผัสธรรมชาติแท้ ๆ ไม่เหมือนไม้สังเคราะห์
การเลือกใช้ไม้จริงใน Roof Park แสดงถึงการใส่ใจในรายละเอียดของโครงการ ที่ต้องการให้พื้นที่สีเขียวนี้ไม่เพียงเป็นแลนด์สเคปสวยงาม แต่ยังเป็น “พื้นที่ประสบการณ์” ที่เชื่อมโยงคน เมือง และธรรมชาติ เข้าด้วยกันอย่างแท้จริง
Dusit Central Park ไม่ได้โดดเด่นเพียงความหรูหรา แต่ยังใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสุขภาวะผู้ใช้งาน
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจใน Dusit Central Park คือ ร้าน Tropicfeel Thailand แบรนด์ไลฟ์สไตล์สายท่องเที่ยวจากยุโรปที่เลือกใช้วัสดุตกแต่งจาก XSURFACE เพื่อสะท้อนบรรยากาศของธรรมชาติและการเดินทางได้อย่างกลมกลืน
เมื่อรวมองค์ประกอบเหล่านี้เข้าด้วยกัน Tropicfeel Thailand จึงไม่เพียงเป็นร้านค้า แต่ยังเป็น พื้นที่เล่าเรื่องของนักเดินทาง ที่ผสมผสานวัสดุสมัยใหม่เข้ากับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติได้อย่างลงตัว
อัพเดตเทรนด์วัสดุและการตกแต่งก่อนใครที่ XSURFACE.COM แหล่งรวมวัสดุตกแต่งมากกว่า 10,000 รายการ ตอบโจทย์ทั้งงานตกแต่งภายในและภายนอก ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไร ก็สามารถมาค้นมาวัสดุได้ที่ XSURFACE จะงานใหญ่งานเล็ก เราก็มีครบ ตอบโจทย์ทุกโปรเจค ราคาดีสินค้าได้มาตรฐาน หากไม่แน่ใจในเรื่องของวัสดุที่จะใช้ เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำผ่านช่องทาง Chat&Shop > Line : @xsurface หรือเข้ามาชมวัสดุจริง พร้อมปรึกษากับนักออกแบบภายใน สามารถเข้ามาชมสินค้าได้ที่ Material Library สุขุมวิท 62 กทม. นัดเวลาเข้าชม Material Library ได้ที่เบอร์ 065-656-2887